ประวัติส่วนตัว

ชื่อ เด็กหญิง ธนิสรา นิลวงศ์   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2

โรงเรียน มอ.วิทยานุสรณ์

สิ่งที่ฉันชอบ :  KPOP EXO BTS ขนม เครป และ บิงซู
สิ่งที่ไม่ชอบ : เลือด เสียงเทปตีนตุ๊กแก งู
นิสัย : ตลกเฮฮา โกรธง่ายหายเร็ว กินเอง

..................................................................................................................................

1.โรงอาบน้ำในเกาหลี

         찜질방(จิมจิลบัง) หรือ 사우나(ซาวน่า) แต่ที่นี้ไม่ใช่แค่ซาวน่า ยังมีคาราโอเกะ ตู้เกม
ที่พักผ่อน ร้านอาหาร
   ในประเทศที่มีอากาศหนาวมากๆ การได้อาบน้ำหรือได้แช่ในน้ำร้อนถือเป็นความสุขอย่างนึง เราจะเห็นว่าที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีสถานที่ที่เอาไว้อาบน้ำร้อนเรียกว่า ออนเซ็น (Onsen) ส่วนที่เกาหลีก็มีเช่นกันแต่ก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปโดยเรียกว่า จิมจิลบัง (Jimjilbang)

หากจะอธิบายถึงจิมจิลบังก็เหมือนกับสถานที่อาบน้ำสาธารณะของชาวเกาหลี ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ บางแห่งเปิดบริการเป็นช่วงเวลา บางแห่งก็เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งภายในจิมจิลบังก็จะมีบ่อน้ำร้อนน้ำเย็นที่อุณหภูมิที่แตกต่างกันไป และก็ยังมีส่วนของห้องโถงรวมที่ไว้ให้ผู้ที่มาใช้บริการได้เข้ามาพักผ่อนหลังจากอาบน้ำเสร็จ และในห้องโถงก็ยังมีห้องอบซาวน่าแบบต่างๆไว้คอยบริการอีกด้วย ตามแต่ใครจะชอบแบบไหน หรือแค่เข้ามานอนเล่น หรือนอนจริงจังที่โถงนี้ได้

                                                                                                                               

2. ความเชื่อแปลกๆเรื่องความรัก

        1.1 ห้ามคู่รัก เดินข้างกำแพงวังด็อกชูกุง เพราะจะทำให้ต้องเลิกกัน  ความเชื่อนี้เกิดมาจากเรื่องราวสมัยในอดีตที่เล่าต่อๆ กันมาว่า ปลายถนนเส้นรอบกำแพงวังด็อกชูกุงมีศาลครอบครัวแห่งกรุงโซลตั้งอยู่ ซึ่งเป็นจุดที่คู่สามีภรรยาที่ต้องการจะหย่าร้างกันต้องเดินทางผ่านบริเวณนี้เพื่อไปขึ้นศาล นี่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความเชื่อขึ้นมาว่าถ้าหากคู่รักเดินข้างกำแพงวังด๊อกซูกุงจะทำให้เลิกกันนั่นเอง

   

        1.2 ถ้าเราใส่รองเท้าที่มีเชือกผูก แล้วอยู่ดีดีเชือกหลุด แสดงว่า “มีใครบางคนคิดถึงเราอยู่

         1.3  ห้ามให้รองเท้าเป็นของขวัญ เพราะจะทำให้คนๆ นั้นหายจากเราไป แต่หากพลาดซื้อรองเท้าให้ไปแล้ว ให้แก้เคล็ดด้วยการจ่ายเงินให้กับคนที่ให้ของขวัญ ให้เหมือนกับว่าซื้อรองเท้าคู่นี้มาเอง (เหมือนความเชื่อเรื่องผ้าเช็ดหน้าในประเทศไทยเลยนะเนี่ย)

       1.4 ห้ามป้อนไก่ หรือสัตว์ปีกให้สามีกิน เพราะสามีจะหนีไป เหมือนสัตว์ที่มีปีกบินไปได้

3. รู้จับะหมี่เย็นป่าวว

บะหมี่เย็นหรือแนงมยอน 물냉면 เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆในช่วงฤดูร้อนนี้ ส่วนรสชาติ เปรี้ยว หนวาน เค็ม มาเต็มทุกรสชาตเลยค่ะ มาดูวิธีการทำ บะหมี่เย็น

ทำความรู้จักบะหมี่เย็น

4. ต้นไม้ประจำชาติของประเทศเกาหลี

ต้นทงแบก (ต้นแป๊ะก๊วย)

5.เรื่องแปลกตาที่เกาหลีไม่ค่อยมี สุนัขเดินเพ่นพ่าน

เพราะค่าเลี้ยงดูสุนัขที่เกาหลีแพงมากๆ และถ้าจูงสุนัขไปเดินเล่นตามถนนที่เกาหลี ถ้าสุนัขอึออกมา เราต้องเก็บทำความสะอาดเอง ไม่งั้นต้องเสียค่าปรับ

6.โสมเกาหลี สมุนไพรของดีจากแดนอปป้า

   โสม เป็นพืชสมุนไพรโบราณ มีหลากหลายสายพันธุ์แตกต่างกันไปตามแต่สถานที่เพาะปลูก เช่น โสมจีน โสมเกาหลี และโสมอเมริกา แรกเริ่มเดิมทีนั้นการใช้โสมถูกบันทึกไว้ในตำรับยาแพทย์แผนจีนหลายพันปีก่อน เชื่อกันว่าโสมในยุคแรกที่มีการนำมาใช้คือโสมป่า ที่ขุดได้จากทางตอนเหนือของจีน มีรูปร่างของรากคล้ายกับคน (หยิ่งเซียม) และมีการใช้โสมแพร่หลายออกไปยังเกาหลี โสมเกาหลี (โสมโครยอ) และอีกหลากสายพันธุ์จากฝั่งอเมริกา ในสมัยก่อนโสมนั้นมีราคาแพงมาก เนื่องจากโสมป่านั้นเป็นของหายาก แต่โสมที่ดีที่สุดคือโสมที่มีถิ่นกำเนิดจากประเทศเกาหลีและจีนเป็นส่วนใหญ่ สารสำคัญที่ตรวจพบในรากโสมที่มีฤทธิ์ในทางรักษาโรคคือ Ginsenosides ที่มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลของร่างกาย (หยิน-หยาง) ได้เป็นอย่างดี โสมจะดีมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับปริมาณ Ginsenosides ที่มีอยู่ในรากโสมนั่นเอง โสม ยังมีประโยชน์ในการช่วยให้เนื้อเยื่อดูดซึมออกซิเจนได้มากขึ้นจึงทำให้กระบวนการเผาผลาญอาการในร่างกายเกิดได้มากขึ้นซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดพลังงานแก่ร่างกายจำนวนมาก โสมยังเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่เป็นสาเหตุของการทำลายเซลล์ให้แก่ก่อนวัยและยังมีประสิทธิภาพในการเป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆได้อีกด้วย

 7. กิมจิ อาหารชั้นเลิศรสโอชา

 กิมจิ (kimchi) เป็นอาหารพื้นเมืองของประเทศเกาหลี ใช้รับประทานเป็นเครื่องเคียง (side dish) เสริฟพร้อมกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ วัตถุดิบหลัก คือผักกาด หัวไชเท้า ต้นหอม พริกชี้ฟ้า กระเทียม ขิง น้ำปลา เกลือ น้ำตาล ที่ผ่านการหมัก (fermentation) ให้เกิดกรดแล็กทิก (lactic acid fermentation) ด้วยจุลินทรีย์ที่ผลิตกรดแล็กทิก (lactic acid bacteria) มีรสเปรี้ยว และเค็ม เผ็ดเล็กน้อย

ประวัติของอาหาร

 กิมจิ เกาหลี ตั้งแต่มนุษย์เริ่มทำการเพาะปลูกมานั้น ผักเป็นที่ชื่นชอบเนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย อย่างไรก็ดีในฤดูหนาวเมื่อการเพาะปลูกไม่เอื้ออำนวยจึงได้นำไปสู่การพัฒนาการการถนอมอาหาร โดยวิธีการหมักดอง กิมจิซึ่งเป็นผักดองชนิดหนึ่งจึงถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 7

8.เกาะเชจู กับตำนานโขดหินรูปหญิงสาว

ลมแรงๆ บนเกาะเชจู ได้สร้างประติมากรรมธรรมชาติไว้มากมาย นอกจากยงดูอัมโขดหินที่มองดูคล้ายมังกรนอนอยู่ริมทะเลแล้ว ยังมีกลุ่มหินขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเรียกกันว่า โอโดลแก (Oedolgae) ลักษณะคล้ายผู้หญิงที่ตั้งแต่ส่วนไหล่ขึ้นไปโผล่พ้นน้ำทะเล ซึ่งผู้หญิงคนที่ว่านี้คนเจจูก็มีตำนานเล่าถึงนานาเช่นตำนานที่ไกด์ประจำกลุ่มของเล่าให้ฟังว่า หญิงคนนี้ก็คือ “Grandma” แม่เฒ่าผู้สร้างเกาะเชจู แล้วอยู่มาวันหนึ่งเมื่อสามีเธอออกเรือไปในทะเล เย็นแล้วเห็นยังไม่กลับ เธอก็ออกมายืนรอ รอแล้วรอเล่าเขาก็ไม่กลับมา เธอแสนเสียใจแต่ก็ยังเฝ้ารออยู่อย่างนั้นจนกลายเป็นหินในที่สุด ฟังดูแล้วน่าสงสารไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น ตรงจุดนี้ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องเศร้าๆ เพราะแถบนี้นับเป็นจุดชมวิวริมทะเลบนเกาะเชจูที่น่าดูจุดหนึ่ง แถมยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครแดจังกึมที่โด่งดังด้วย ใครที่เป็นแฟนละครเรื่องนี้ผ่านมาก็อย่าลืมลองแวะดูจุดที่ใต้เท้ามินพาจังกึมหนีมาแถวถ้ำริมทะเลก็แล้วกัน

9. ฮันบก ชุดประจำชาติของแดนกิมจิ

ชุดฮันบก(Hanbok) คือชุดการแต่งการของชาวเกาหลีที่มามายาวนานนับพันปี แต่ในปัจจุบันชาวเกาหลีก็จะสวมใส่ชุดฮันบกเฉพาะงานเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ หรือการพิธีการสำคัญๆเท่านั้น ทั้งที่หากย้อนไปเพียงแค่ร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ฮันบกก็ยังคงเป็นชุดที่ชาวเกาหลีสวมใส่ในชีวิตประจำวันทั่วไป ตัวอย่างการสวมใส่ชุดฮันบกในปัจจุบันก็อย่างเช่น วันเกิดปีแรกของเด็ก วันแต่งงาน วันที่อายุครบรอบ 60 ปีหรือวันและพิธีกรรมทางศาสนา และงานศพ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันในบางพื้นที่ที่เป็นเขตชนบทก็ยังคงรักษาการสวมชุดฮันบกเอาไว้ได้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมก็มี

  ฮันบก 

  10. โซจู สุดยอดเครื่องดื่มแดนโสมเกาหลี

โซจู (소주)   คือที่สุดของที่สุดของความเป็นเกาหลีอย่างแท้จริง เป็นเหล้ากลั่นใสคล้ายกับวอดก้า ถือเป็นเครื่องดื่มประจำชาติเลยก็ว่าได้ ส่วนผสมหลักของเหล้าโซจู ก็คือ ข้าว ร่วมกับส่วนผสมอย่างอื่น เช่น ข้าวสาลี ข้าวปาร์เลย์ หรือมันฝรั่งหวาน มีรสขมออกหวาน ส่วนใหญ่มักจะบรรจุด้วยขวดแก้วสีเขียว 

ต้นกำเนิดของโซจูในปัจจุบัน

 มีต้นกำเนิดมาจาก “อารัก (Arak หรือ araq)” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นเมืองของชาวตะวันออกกลาง อย่างอิรัก เลบานอน ซีเรีย จอร์แดน และอิสราเอล ได้ถูกนำเข้ามาในเกาหลีครั้งแรกในปีช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1300 ผ่านชาวมองโกลในสมัยราชวงศ์หยวนของจีนที่เข้ามารุกรานและตั้งที่มั่นที่เมืองอันดง ในเขตอาณาจักรโครยอของเกาหลีก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งระหว่างที่ทหารมองโกลพักแรมอยู่ที่นั้น ชาวเมืองอันดงได้เรียนรู้และซึมซับเอาสูตรการหมักเหล้า “อารัก (Arak)” มาและค่อยๆ มีการพัฒนา จนกลายเป็น “โซจู” ดังเช่นในปัจจุบัน

(โซจูถือเป็นสุราชนิดหนึ่ง ฉะนั้นเด็กๆไม่ควรลองกันนะค่ะ)

11.อาชีพหาปูหาปลาของแดนกิมจิ

แฮ-นยอ (แฮเนียว) คือนักดำน้ำหญิงที่คอยดำน้ำเก็บสาหร่าย จับกุ้งหอยปูปลาและเม่นทะเล เพื่อนำมาขาย หรือมาทำเป็นอาหารให้กับสมาชิกในครอบครัว จะเป็นผู้หญิง แต่ก็สามารถดำน้ำในอุณหภูมิราว 10 องศาเซลเซียสได้ จึงได้ฉายาว่า
"นางเงือกแห่งเชจู" ปัจจุบันอาชีพนี้ค่อยๆเลือนหายไปตามการเวลา และยุคสมัย

12.อารีรัง เพลงอิตเพลงดังตลอดกาลของเกาหลี

   อารีรัง คือเพลงดั้งเดิมที่ไม่ว่าชาวเกาหลีคนไหนก็ร้องได้ อารีรังมีหลายเวอร์ชั่น ที่เก่าแก่ที่สุด

...เพลงอารีรัง...จะถูกนำขึ้นมาร้องทุกครั้งไป โดยถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติร่วมกันและที่สำคัญจะไม่มีการร้องเพลงชาติของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นั่นเป็นการสื่อถึงความหมายการเป็นชนชาติเดียวกัน หากแต่ต้องตัดขาดความเป็นญาติพี่น้อง เพียงเพราะอุดมการณ์ความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน บนเส้นทางถนนซึ่งพาดผ่านช่องแคบภูเขาทอดยาวคดเคี้ยวคู่ขนานไปกับแม่น้ำดองกังแห่งยองวอล ...

      เพลงอารีรังหลาย ๆ เวอร์ชันนั้น เริ่มต้นด้วนการพรรณนาการเดินทาง โดยเนื้อหาของเพลงนั้นเกี่ยวกับตอนที่เดินทางผ่านช่องเขา อารีรังนั้นเป็นชื่อของช่องเขาแห่งหนึ่ง จึงถูกใช้เป็นชื่อเพลงด้วย อารีรังบางเวอร์ชันได้กล่าวถึงช่องเขามุนกย็องแซแจ ซึ่งเป็นช่องเขาหลักที่สำคัญสมัยราชวงศ์โชซ็อน อยู่ระหว่างถนนจากโซลไปยังจังหวัดคย็องซังทางตะวันออกเฉียงใต้

ช่องเขาหลายแห่งในเกาหลีนั้นมีชื่อว่าช่องเขาอารีรัง ช่องเขาอารีรังแห่งหนึ่งตั้งอยู่บริเวณเนินเขาทางภาคกลางของเกาหลี ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโซล เดิมมีชื่อว่าช่องเขาจช็องนึง และถูกเปลี่ยนชื่อในปี 1926 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการฉายภาพยนตร์อารีรัง ซึ่งเป็นภาพยนตร์เงียบที่ดีที่สุดของเกาหลี แต่เพลงอารีรังหลาย ๆ เวอร์ชันนั้นมีอายุเก่าแก่กว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อีก

13.ต๊อกของหวานจากเกาหลี

     เค้กข้าว หรือ ต๊อก ขนมหวานของเกาหลีมีลักษณะเหนียว ทำจากข้าวบดรวมกับธัญพืช ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลให้ออกรสหวานจากนั้นนำไปนึ่ง และอาจแต่งหน้าขนมด้วยผลไม้ หรือธัญพืชต่างๆ เช่น พุทรา ถั่วแดง เกาลัด รสชาติคล้ายกับโมจิชาวญี่ปุ่น

  เค้กข้าวนิยมรับประทานกันในครอบครัว หรือแลกเปลี่ยนกันระหว่างเพื่อนบ้านเมื่อมีเทศกาลสำคัญ เช่น งานวันเกิด งานแต่งงาน

14ความลับแดนกิมจิ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

14ความลับแดนกิมจิ ที่คุณอาจจะยังไม่รู้

   

     หลายๆคนอาจจะรู้ประเทศเกาหลีใต้ จาก ซีรีย์ , วงเกาหลี ,หรือ จากแหล่งความรู้อื่นๆ แต่น้อยคนที่จะรู้ความลับ หรือ เรื่องพิสดารแปลกๆของเกาหลี ซึ่งแต่ละเรื่องทุกคนอาจจะยังไม่รู้ หรืออาจนึกไม่ถึงเลยก็ได้ ฉะนั้นไปเปิดประตูความลับของแดนกิมจิกัน 가자(ไปกันเลย)

   1.นามสกุลสุดฮอตในแดนกิมจิ

                                                       
                                                       

   นามสกุลสุดฮอตในแดนกิมจิ
 
    ชื่อของชาวเกาหลีส่วนใหญ่จะมี นามสกุลขึ้นต้น ตามด้วยชื่อ ซึ่งนามสกุลก็มี 1 พยางค์ นามสกุลของชาวเกาหลีค่อนข้างจำกัดอยู่ไม่กี่กลุ่มคำ ด้วยเหตุนี้ชาวเกาหลีจึงมีนามสกุลซ้ำๆ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นญาติกัน
 จากข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับนามสกุลของชาวเกาหลี ทำให้เราสามารถจัดอันดับนามสกุลยอดฮิตได้ดังนี้ มาดูกันเลย
         
         1.นามสกุล 김 คิม  (Kim)
         2.นามสกุล 이 อี/ลี  (Lee)
         3.นามสกุล 박 ปาร์ค (Park)
         4.นามสกุล 최 ชเว  (Choe)
         5.นามสกุล 중 จุง (Jeong)

นามสกุลยอดฮิต